วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หนังสือ ทำชีวิตให้ได้ดี และมีสุข

วันนี้ผมขอแนะนำหนังสือ ดีๆ อีกเล่มหนึ่งที่ผมใช้ยึดอ่านเวลาท้อแท้ใจหรือใช้เป็นแบบอย่างแนวทางในการดำรงชีวิต  หนังสือ เล่มนี้ชื่อ ทำชีวิตให้ได้ดีและมีสุข  เป็นหนังสือในชุดทางสายเอก ของสำนักพิมพ์อัมรินทร์  โดยเป็นการรวบรวมจากเทปการบรรยายของ ดร.สนอง วรอุไร รวบรวมมาเฉพาะส่วนที่เป็นหัวกะทิ อัดแน่นไปด้วยสาระ ความรู้ และเคล็ดลับของการใช้ชีวิต เรียบเรียงเข้าด้วยกันอย่างเป็นระเบียบ อ่านบทใดก่อนก็ได้  ค่อยๆ อ่านไปทีละบท และอ่านให้จบทั้งเล่ม ผมยังกลับมาอ่านทบทวนอีกหลายครั้ง หลายรอบ ตามคำนำในหนังสือ ที่ว่าอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะทำให้รู้ว่า แท้จริงแล้วจิตของเรา มีศักยภาพมากกว่าที่คิด ถ้าทำจิตให้นิ่งเป็นสมาธิแล้ว เราจะขยันมาก มีความกระตือรือร้น และทำงานได้ไม่เหน็ดเหนื่อย ตื่นเมื่อไรก้อทำงานได้เมื่อนั้น สติปัญญาจะแจ่มใสละเอียดมาก หนังสือเล่มนี้ยังพูดถึง ไอคิว อีคิว เอ็มคิว และเอสคิวอีกด้วย  ตัวผมเองไม่เคยพบอจ.สนองครับ แต่อ่านจากประวัติท่านเป็นอดีตอาจารย์ที่ม.เชียงใหม่ และเคยอุปสมบทและฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับพระเทพสิทธิมุนี (ท่านเจ้าคุณโชดก) ที่คณะห้า วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์ ท่าพระจันทร์ ในช่วงเวลา 30 วันที่ท่านอจ.ฝึกกรรมฐาน ได้ตั้งสัจจะอธิฐานมุ่งมั่นเพื่อธรรมะของพระพุทธองค์ และนำธรรมะนั้นมาสั่งสอนและท่านยังเป็นวิทยากรมาสอนคนนอกวัดอย่างเราๆ ทุกวันนี้  เนื้อหาในหนังสือ ที่สำคัญแต่ละบทเช่น
  • ทำความเข้าใจเรื่อง กาย ก่อน
  • จิต สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด
  • พลังจิต 
  • จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
  • อะไรหรือคือสิ่งนำชีวิต
  • ชีวิตดีต้องตีบทแตก
  • กำหนดสเป๊คให้ชีวิต
  • สูตรสำเร็จของชีวิต
  • ส่วนผสมของความสมหวัง
  • ปัญญากับการศึกษาที่ถูกทาง
  • หกขั้นสู่ตัวฉันที่ พัฒนาแล้ว
  • ใช้ธรรมทำงาน
  • ตั้งรับชีวิตด้วยสติ
  • บทสรุปสู่ชีวิตที่เปี่ยมสุข
              ทุกวันนี้ผมจะหยิบหนังสือเล่มนี้มาทบทวนเสมอ และต้องขอขอบคุณสำนักพิมพ์อัมรินทร์ที่มีหนังสือดีๆ แบบนี้ออกมาให้ได้อ่าน และขาดไม่ได้ต้องขอขอบคุณ ผู้เรียบเรียง คุณฐิติขัวญ เหลี่ยมศิริวัฒนา ที่ช่วยเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ออกมาได้ดี เป็นหนังสือที่ผมขอแนะนำให้มีไว้ติดบ้านเล่มหนึ่งครับ เล่มที่ผมซื้อมาน่าจะประมาณปี 2550-2551 เพราะเป็นการพิมพ์ครั้งที่ 11 แล้วคับ ไม่แน่ใจว่าหนังสือเล่มนี้ยังมีวางขายที่ร้านนายอินทร์อีกหรือเปล่า

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

04-06-2012 วันวิสาขบูชา

เก็บภาพไว้แล้ว ยังไม่ได้เอามาลงไว้ เป็นวันที่ผมไปทำบุญที่วัดละหาร เนื่องในวันวิสาขบูชา ปีนี้พิเศษ เพราะครบรอบ 2600 ปี พุทธชยันตีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธองค์
บรรยากาศในงานนี้ที่วัดละหารจัดกิจกรรมหลายอย่างเริ่มตั้งแต่การทำบุญถวายอาหารเลี้ยงพระเนื่องในวันพระซึ่งเป็นประจำอยู่แล้ว ผมได้ทำบุญในส่วนนี้ วันนี้ผมไปคนเดียวเพราะแม่และพี่สาวไปกับป้าที่สนามหลวงที่มีกิจกรรมเช่นกัน

ผมได้ทำบุญช่วยจัดงานกิจกรรมของวัด

มีการเขียนข้อความจะทำความดีไว้บนใบโพธิ์และไปติดที่ต้นโพธิ์

วันวิสาขบูชา เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า

ประสูติ ณ สวนลุมพินีวัน

ตรัสรู้ ณ ใต้ต้นโพธิ์ พุทธคยา ปัจจุบัน

ปรินิพพาน ที่เมือง กุสินารา
งานผมเยอะช่วงเปลียนบริษัทต้นเดือนมิถุนายน ผมเลยได้ทำบุญช่วงเช้า ช่วงบ่ายต้องกลับมาทำงานต่อคับ



อีก 1 ความฝันของผม

ผมได้ฟังสัมมนาหัวข้อหนึ่ง หาฟังจาก internet เกี่ยวกับลงทุน ผู้บรรยายเล่าเรื่องการประสบความสำเร็จในการลงทุน ตั้งแต่เด็กจนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ผมไม่ได้คิดจะเลียนแบบเพราะว่าคงจะไม่มีใครทำได้เหมือนใคร แต่สิ่งนึงการฟังน่าจะเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งเป้าหมายในชีวิตของเราได้ดีอย่างหนึ่งเลยครับ ผู้บรรยายเล่าว่ามีการตั้งหมายในชีวิตไว้ 5 ข้อ ตอนนี้สำเร็จแล้ว 3 ข้อ อายุของผู้บรรยายประมาณ 30 ต้นๆ มุมมอง หนึ่งในนั้นของผู้บรรยายได้บอกว่า เงินไม่ใช่เป้าหมายหลักในการดำรงชีวิต พอถึงจุดหนึ่ง เงินที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป เค้ายังใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่สามารถทำในสิ่งที่ใฝ่ฝันได้มากขึ้น คือ การมีเวลาได้ทำสิ่งที่ชอบ นี้คือความสุข ตอนนี้ผมก้อตั้งเป้าหมายของผมไว้ 5 ข้อเหมือนกัน วันหนึ่งผมจะไปถึงจุดนั้นให้ได้ครับ อย่างน้อยต้องทำ 3 ใน 5 ข้อให้สำเร็จในชีวิตนี้ครับ
วันนี้ ที่ลุกมาเขียน Blog เพราะจะเอารูปจากการไปสัมมนา 2 งาน เกี่ยวกับการลงทุน งานแรกเป็นงาน MoneyTalk@SET จัดขึ้นที่ หอประชุม ศ.สังเวียน อินทรวิชัย เมื่อวันที่ 27/05/55 ผมไปร่วมงานช่วงบ่าย
เป็นการร่วมงานสัมนาลงทุนเป็นครั้งแรกของผม งานนี้ผมได้เจอ อจ.ไพบูลย์ อจ.นิเวศน์ ตัวจริงเสียงจริงจากการดูแต่ทีวีในรายการ MoneyTalk

ก่อนเข้างานผมเจอพี่พรชัย ที่เขียนหนังสือการลงทุนที่ผมติดตามอ่านอยู่เลยได้ขอลายเซ็นต์ตามที่คาดหวังไว้
ด้านล่างเป็นบรรยากาศหน้าห้องประชุม คนเยอะเต็มจนต้องนั่งพื้น
งานเลิกประมาณ ห้าโมงกว่า แต่มี รายการรุมหลังงานต่อ ไม่ใช่รุมใครแต่เป็นการฟัง ดร.นิเวศน์พูดเรื่องการลงทุน คนยังเยอะเหมือนเดิม มุมมองของดร. คนสนใจและนำไปปรับใช้อยู่เสมอ

สุดท้ายผมกลับก่อนเกือนทุ่ม เพราะบ้านอยู่ไกล
 ส่วนอีกงานสัมมนาเป็นกลุ่ม ThaiVI จัดเมื่อ 02/06/55 บนเรือที่ยกยอมารีน่า ล่องเรือบนแม่น้ำเจ้าพระยา ผมไปร่วมเป็นครั้งแรกเหมือนกัน มีเก็บภาพมาแค่ไม่กี่รูปเพราะเน้นไปคุยและฟังความคิดเห็นของเซียนทั้งหลาย ได้ขอลายเซ็นต์ดร.นิเวศน์แบบใกล้ชิด เพราะงานแรกเข้าไม่ถึง 555


สุดท้ายผมกลับก่อนเพราะบ้านไกลและต้องรีบกลับมาทำงานต่อ คืนนั้นนอนเกือบตีสอง ..แต่เป็นความสุขและความฝันไปสู้เป้าหมายในการลงทุนของผมครับ...

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

วันมาฆบูชา ปี 2555

วันนี้ (07/03/55) ผมตื่นนอนเช้ากว่าปกติ ประมาณ 7 โมง ปกติวันหยุดจะตื่นสาย แต่วันนี้ผมมีนัด  มีนัดกับใครเหรอ อืมมีนัดกับคุณแม่ที่วัดใกล้บ้าน คุณแม่กับพี่สาวไปปฏิบัติธรรมรอ อยู่ก่อนแล้ว...ผมไปหาอาหารเช้าและอาหารเตรียมปิ่นโตไปทำบุญที่วัด  บังเอิญคุณพ่อท่านไม่ค่อยสบาย ด้วยหลังจากกลับจากวัดได้ทำบุญแล้วส่งปิ่นโตต่อให้คุณแม่แล้ว  ผมจึงกลับมาพาคุณพ่อไปโรงพยาบาลต่อ..หลังจากตรวจอาการคุณพ่อแล้ว ก้อกลับมาบ้านผมออกไปหาอาหารเที่ยงอีกครั้ง...รู้สึกเหนื่อยช่วงบ่ายเลยหลับไปพักใหญ่ และกลับไปวัดจีน และแวะไปวัดละหารอีกครั้งเพื่อไปเอาที่ชาร์จมือถือให้คุณแม่ ได้นั่งฟัง vdo การ์ตูน เกี่ยวกับ ทศชาติ ที่จำได้ ก้อมี สุวรรณสาม และอีก 2 ชาติจำชื่อไม่ได้ แต่ผมคิดว่ามีประโยชน์มาก ที่วัดทำรูปแบบนี้ออกมา ผมดีใจที่ผมได้อยู่ใกล้วัดแห่งนี้ และขอบคุณ สิ่งที่ผมยึดถือแนวทาง ความสำเร็จหลายอย่าง ที่มีวันนี้เพราะเรามีความเชื่อ ความศรัทธาที่ถุกต้อง  หรือเรียกว่ามีสัมมาทิฐิ...ที่ดี ผมได้เวียนเทียน ได้ทำบุญ รู้สึกวันนี้เต็มที่อิ่มบุญ สุดท้ายกลางคืนก้อกลับมาทำงาน
ความรู้สึกวันนี้ ผมได้ทำอะไรหลายอย่างดี
จนวันที่ผมเขียน blog วันที่ 08/03/55 ผมเก็บความสุขที่ดีๆ แบบนี้ไม่อยู่ อยากบอกว่าวันนี้ผมมีความสุขมากครับ...ขอบคุณ ความดี ผลบุญ สิ่งดีๆ ที่ได้ทำ ผมว่าสิ่งเหล่านี้ได้ย้อนกลับมาหาผมทำให้ผมมีความสุขในวันนี้คับ...ขอบคุณมากคับ

ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในโลก

ผมกลับมาเขียน Blog อีกครั้งหลังห่างไปเป็นปี..หลังจากน้ำท่วมตลาดบางบัวทอง ครอบครัวกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันดังเดิม  สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังน้ำท่วม นอกจากบ้านที่โดนน้ำท่วมและความเสียหายของทรัพย์สินในบ้าน...สิ่งนึงที่ผมคิดได้ขณะนี้ที่เปลี่ยนไป คือ ความคิด  หลังเห็นความเสียหาย ของทรัพย์สินภายนอก บอกได้เลยว่าชีวิตมนุษย์ มีค่ามากกว่าทรัพย์สินที่เสียหายอย่างนับค่าไม่ได้...
สิ่งที่ผมอยากประกาศให้โลกได้รู้ว่า ยังมีคนที่ผมรักและห่วงใยมากที่สุดในโลก ณ ตอนนี้มีอยู่ 3 คน
คือ คุณพ่อ และคุณแม่รวมถึงพี่สาวสุดที่รักของผม
เดือนกุมภาพันธ์..เดือนแห่งความรักที่ผ่านมา...ผมได้ทำความฝันของคุณแม่เป็นจริงได้สำเร็จ คือท่านได้เดินทางไปอินเดียตามที่ท่านตั้งใจอยากจะไป...วันนี้ผมรู้สึกว่า ผมอยากจะบอกคุณแม่ว่าท่านเป็น
ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในโลก ถ้าผมได้ทำให้ท่านไม่สบายใจบ้างก้อต้องกราบขอโทษคุณแม่ไว้ ณ ที่นี้ด้วย..ส่วนคนที่ 2 ที่ผมรักรองลงไป คือพี่สาว คนเดียวของผม  นับวันผมยิ่งรักพี่สาวมากยิ่งขึ้น ความรู้สึกเป็นห่วงและอยากให้คุณแม่และพี่สาวมีความสุขมันอยู่ในใจ อยู่ตลอด   ผมไม่รู้หรอกว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ผมรู้ว่า วันนี้ เวลานี้ วินาที ผมรักผู้หญิง 2 คนนี้มากที่สุดในโลกครับ..ถ้าหากจะมีผู้หญิงคนที่ 3 เข้ามาในชีวิตของผม ก้อต้องยอมรับว่าเค้าได้ความรักที่น้อยกว่าผู้หญิง 2 คนนี้อย่างแน่นอน...ที่เขียนขึ้นมาเพราะอยากบอกให้รู้ว่า...ที่ผมอยู่ในแบบที่ผมเป็นทุกวันนี้ เพราะผมจะคิดถึง ครอบครัวก่อนเสมอ..ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ผมพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ในทุกวัน  เพราะผมมีความสุขที่ผมมีครอบครัวที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อยู่ด้วยความรัก แม้จะเห็นไม่ตรงกันบ้างแต่ก้อเป็นเรื่องปกติ..อยากบอกอีกครั้งว่า ผมรักคุณพ่อ คุณแม่ และพี่สาวมากครับ.. ด้วยรัก...จากใจจริงในส่วนลึก..